เปรียบเทียบ แบตเตอรี่ตะกั่วกรด แบตลิเที่ยมฟอสเฟต และแบตเตอรี่เจล แตกต่างกันอย่างไร?

1. ความแตกต่างระหว่าง แบตเตอรี่ตะกั่วกรด กับแบตเตอรี่ลิเที่ยมฟอสเฟต

แบตเตอรี่ตะกั่วกรด คือ แบตเตอรี่ที่มีการใช้งานมาอย่างยาวนาน ซึ่งใช้งานกันมาหลายปีแล้ว ถือเป็นชนิดของแบตเตอรี่ที่มีความเก่าแก่มากที่สุด ส่วนตัวแบตเตอรี่แบบลิเที่ยมฟอสเฟตจะเป็นแบตเตอรี่ตัวใหม่กว่า ซึ่งจะมีความทันสมัยและมีความแตกต่างจากแบตเตอรี่แบบตะกั่วอยู่แล้ว โดยผู้ใช้สามารถเลือกได้ตามต้องการเลย

แบตเตอรี่แบบตะกั่วจะมีสารละลายอิเล็กโทรไลท์เป็นของเหลว ทำให้ต้องมีการเติมน้ำกลั่นอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้ตัวแบตเตอรี่เสื่อมเร็ว ส่วนตัวแบตเตอรี่แบบลิเที่ยมฟอสเฟต ใช้วัสดุฟอสเฟตเป็นขั้วลบของแบตเตอรี่ และมีคุณสมบัติที่สำคัญคือจะมีความต้านทานภายในต่ำ ทำให้จ่ายไฟได้มาก ไม่เกิดปัญหาเรื่องความร้อน จะมีความแตกต่างจากแบตเตอรี่ตะกั่วกรดในหลายเรื่องเลย

อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ทั้งสองแบบจะมีความแตกต่างกันตรงที่ แบตเตอรี่แบบตะกั่ว จะมีอายุการใช้งานอยู่ที่ประมาณ 500-600 Cycle กล่าวคืออายุการใช้งานไม่เกิน3 ปี แต่ก็ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาของผู้ใช้ด้วย ส่วนตัวแบตลิเที่ยมฟอสเฟตจะมีอายุการใช้งานได้มากถึง 10 ปี หรือต่อการชาร์ตมากกว่า 3,500 Cycle จึงมีความคุ้มค่าในการใช้งานเป็นอย่างมาก

น้ำหนักของแบตเตอรี่แบบลิเที่ยมฟอสเฟตจะมีน้ำหนักเบากว่าแบตเตอรี่เจลเป็นสิบเท่า ทำให้เป็นข้อสันนิษฐานได้เลยว่า แบตเตอรี่แบบลิเที่ยมฟอสเฟตจะเบากว่าแบตเตอรี่แบบตะกั่ว เพราะว่าน้ำหนักของแบบตะกั่วกับเจลมันค่อนข้างมากทั้งคู่ ทำให้ช่างต้องยกแบตเตอรี่สองชนิดนี้ด้วยความระมัดระวัง เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน

ระยะเวลาการชาร์ตแบตเตอรี่แบบตะกั่วกรด จะใช้เวลาอยู่ที่ประมาณ 8 – 10 ชั่วโมง ซึ่งถือว่าเป็นแบตเตอรี่ที่ใช้เวลานานกว่าแบตเตอรี่ประเภทอื่น เพราะต้องชาร์ตโดยให้กระแสไฟต่ำ และไม่ควรปล่อยให้แบตเตอรี่หมดแล้วชาร์ต เพราะจะทำให้ต้องชาร์ตนานกว่าเก่า  แบตเตอรี่ตะกั่ว คือ แบตเตอรี่ที่ชาร์ตนานมาก

ระยะเวลาการชาร์ตแบตเตอรี่ลิเที่ยมฟอสเฟตจะใช้เวลาในการชาร์ตน้อยกว่าแบตเตอรี่ตะกั่วกรด โดยจะใช้เวลาอยู่ที่ประมาณ 3 – 4 ชั่วโมงเท่านั้น นอกจากนั้นยังมีปลอดภัยและทนต่ออุณหภูมิได้สูงเรียกว่ามันเป็นแบตเตอรี่ที่มีประสิทธิภาพสูง ทำให้นิยมใช้ในรถไฟฟ้า เพราะมีอายุการใช้งานที่ยาวนานและปลอดภัยด้วย

แบตเตอรี่ตะกั่วกรดจะเป็นแบตเตอรี่ที่มีราคาถูกกว่าแบตเตอรี่แบบอื่นๆ มาก ทำให้อาจจะได้รับความนิยมในการใช้งานมากกว่าแบตเตอรี่แบบอื่นๆ เพราะมีราคาที่ถูกกว่านั่นเอง ทำให้มีคนจำนวนมากนิยมใช้งาน และมันยังสามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย ทำให้มีคนใช้งานมากขึ้นในปัจจุบัน

2. ความแตกต่างระหว่าง แบตเตอรี่ตะกั่วกรด กับแบตเตอรี่แบบเจล

แบตเตอรี่ตะกั่วกรดกับแบตเตอรี่แบบเจลย่อมมีความแตกต่างกันอย่างแน่นอน เพราะว่าแบตเตอรี่แบบเจลจะเป็นแบตเตอรี่แบบแห้ง เกิดจากการนำผงซิลิก้าใส่ลงไปในสารละลายแบตเตอรี่ ทำให้สารละลายกลายเป็นเจล และจะถูกปิดสนิทอยู่ภายในแบตเตอรี่ และมีการทดสอบการรั่วเป็นอย่างดี

ถือว่าเป็นระบบเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อป้องกันปัญหาแบตเตอรี่เสื่อม และทำให้แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น เรียกว่าทำให้คุณเกิดความคุ้มค่าในการใช้งานแบตเตอรี่อย่างแน่นอน แต่ก็ต้องใช้งานแบตเตอรี่เจลให้ถูกต้องตามวิธีการด้วย เพื่อให้แบตเตอรี่แบบเจลสามารถใช้งานได้ดีในระยะยาว

อายุการใช้งาน ของแบตเตอรี่แบบเจลจะมีอายุการใช้งานอยู่ที่ประมาณ 3 – 4 ปี หรือต่อการชาร์ตประมาณ 1,000 Cycle ซึ่งมีการใช้งานที่สั้นกว่าแบตลิเที่ยมฟอสเฟต แต่อาจจะมีการใช้งานที่ยาวนานกว่าแบตเตอรี่แบบตะกั่ว ทำให้ผู้ใช้งานสามารถใช้งานได้นานพอสมควร แต่ต้องมีการดูแลรักษาที่ถูกต้องด้วย

น้ำหนักของแบตเตอรี่เจลจะมีน้ำหนักที่มากกว่าแบตเตอรี่ประเภทลิเที่ยมฟอสเฟต เพราะ น้ำหนักแบตเตอรี่แต่ละก้อนจะมีน้ำหนักต่อลูกราวๆ 40 กิโลกรัมเลยทีเดียว ทำให้คุณเกิดความหนักเวลายกอย่างแน่นอน เรียกว่าต้องหาคนมาช่วยยกเลยก็ว่าได้ นอกจากนั้นยังต้องยกด้วยความระมัดระวังด้วย

ระยะเวลาการชาร์ตแบตเตอรี่แบบเจล จะใช้เวลาในการชาร์ตนานมาก เพราะว่าจะใช้แรงดันในการชาร์ตที่ค่อนข้างน้อย ระยะเวลาในการชาร์ตจะใช้เวลาอยู่ที่ประมาณ 6 – 8 ชั่วโมง ซึ่งจะขึ้นอยู่ว่าแบตเตอรี่เหลือมากน้อยเพียงใด ส่วนแบตเตอรี่ตะกั่ว คือ แบตเตอรี่ที่ใช้เวลาชาร์ตนานกว่าเพราะใช้เวลา 8 – 10 ชั่วโมงนั่นเอง

ราคาแบตเตอรี่แบบเจล จะมีราคาที่ถูกกว่ามาก แต่อายุการใช้งาน จะสั้นกว่าแบตเตอรี่แบบลิเที่ยมฟอสเฟต ทำให้ผู้ใช้งานต้องเปรียบเทียบให้ดีว่าจะใช้งานแบตเตอรี่ตะกั่วกรดหรือแบบฟอสเฟตหรือแบบเจล ซึ่งแบตเตอรี่ตะกั่ว คือ แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ไม่นานเหมือนกัน ส่วนแบบฟอสเฟตจะใช้งานได้นานที่สุด

3. สรุปแบตเตอรี่ทั้ง 3 ประเภทแตกต่างกันอย่างไร?

แบตเตอรี่ตะกั่วกรดกับแบตเตอรี่แบบลิเที่ยมฟอสเฟตและแบตเตอรี่แบบเจล ย่อมมีความแตกต่างกันอยู่แล้ว เพราะแต่ละแบบมีลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกัน ทำให้คุณต้องใช้งานให้ถูกประเภท และเข้าใจในความแตกต่างของแบตเตอรี่แต่ละรูปแบบ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการใช้งาน และเกิดความสะดวกสบายในการใช้งาน

สำหรับท่านใดมีความต้องการรถกอล์ฟไว้ใช้งาน สามารถติดต่อสอบถามเข้ามาทาง LINE : @ktpan หรือทาง FACEBOOK : k.t.pan – รถกอล์ฟ รถไฟฟ้า แบตเตอรี่ ได้เลย ส่วนท่านใดที่มีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามเข้ามาได้ เรายินดีให้คำตอบกับทุกคำถาม เพื่อให้ทุกท่านได้รถกอล์ฟที่ดีไว้ใช้งาน

บทความแนะนำ

ข้อควรระวัง! การเติมน้ำกลั่น ของรถกอล์ฟ มีอะไรบ้าง? เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายกับรถกอล์ฟได้ บทความนี้มีคำตอบ