รู้หรือไม่! รถในสนามกอล์ฟ  มีคันไหนบ้าง? เหมาะใช้งานในสนามกอล์ฟโดยเฉพาะ

รถกอล์ฟไฟฟ้า 2 ที่นั่ง รุ่น KIOSK PRO A ถือเป็นรถในสนามกอล์ฟยอดนิยมที่สามารถใช้งานได้เป็นอย่างดี เนื่องจากมีวงเลี้ยวแคบเพียง 3.6 เมตรเท่านั้น นอกจากนั้นยังประหยัดพลังงาน เพราะว่าชาร์ตไฟครั้งละ 6 – 8 ชม ค่าไฟเฉลี่ยเพียงครั้งละ 8 บาทอีกด้วย ทำให้ประหยัด และตอบโจทย์ประชาชน

ยิ่งไปกว่านั้นการชาร์ตไฟเต็ม 1 ครั้ง วิ่งได้ประมาณ 60 – 80 กิโลเมตรเลยด้วย ขึ้นอยู่กับลักษณะพื้นที่และการใช้งาน และยังใช้ความเร็วสูงสุดที่ 23 – 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นอกจากนั้นยังมีมีกล่องควบคุมอัจฉริยะชะลอความเร็ว เมื่อมีการผ่อนคันเร่ง ในขณะลงเนินด้วย จึงเป็นรถในสนามกอล์ฟที่ปลอดภัย

รถกอล์ฟไฟฟ้า 4 ที่นั่ง รุ่น RIDER A ถือเป็นรถกอล์ฟไฟฟ้า 4 ล้อที่สามารถขับได้ง่ายมาก เพราะวงเลี้ยวแคบเพียง 2.6 เมตร เหมาะสำหรับสถานที่ ที่มีพื้นที่แคบเลยทีเดียว นอกจากนั้นการชาร์ตไฟเต็ม 1 ครั้ง วิ่งได้ประมาณ 50 – 70 กิโลเมตรเลยด้วย ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับลักษณะพื้นที่และการใช้งานด้วย

รถกอล์ฟไฟฟ้า 4 ที่นั่ง รุ่น RIDER M PLUS ถือเป็นรถกอล์ฟไฟฟ้า 4 ที่นั่งที่วงเลี้ยวแคบเพียง 2.9 เมตร เหมาะสำหรับสถานที่ ที่มีพื้นที่แคบ และชาร์ตไฟเต็ม 1 ครั้ง วิ่งได้ประมาณ 80 – 100 กม. ขึ้นอยู่กับลักษณะพื้นที่และการใช้งานทำให้สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย

รถกอล์ฟไฟฟ้า 4 ที่นั่ง รุ่น RIDER PLUS A ถือว่าควรอยู่ในลิสต์ของรถกอล์ฟไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดีเลย เพราะมีวงเลี้ยวแคบเพียง 2.6 เมตรเท่านั้น นอกจากนั้นยังมีการชาร์ตไฟครั้งละ 6 – 8 ชั่วโมงเท่านั้น ค่าไฟเฉลี่ยเพียงครั้งละ 8 บาท และมีกล่องควบคุมอัจฉริยะชะลอความเร็ว เมื่อมีการผ่อนคันเร่ง ในขณะลงเนิน

รถกอล์ฟไฟฟ้า 4 ที่นั่ง รุ่น RIDER-M ถือเป็นรถกอล์ฟที่ประหยัด เพราะว่าชาร์ตไฟเต็ม 1 ครั้ง วิ่งได้ประมาณ 50 – 70 กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับลักษณะพื้นที่และการใช้งาน และยังสามารถไต่ทางชันได้สูงถึง 30% ทำให้เป็นรถในสนามกอล์ฟยอดนิยมคันหนึ่ง เพราะสามารถใช้งานได้อย่างสะดวกมาก

นอกจากนั้นยังมีการชาร์ตไฟครั้งละ 6 – 8 ชั่วโมง ค่าไฟเฉลี่ยเพียงครั้งละ 8 บาทเท่านั้น ทำให้ประหยัดเป็นอย่างมาก และเป็นรถที่ขับง่ายเพราะวงเลี้ยวแคบเพียง 2.6 เมตรเท่านั้น ถือเป็นรถกอล์ฟไฟฟ้า 4 ล้อที่ใช้งานได้ง่าย และยังมีกล่องควบคุมอัจฉริยะชะลอความเร็ว เมื่อมีการผ่อนคันเร่ง ในขณะลงเนินด้วย

รถกอล์ฟไฟฟ้า 6 ที่นั่ง รุ่น CHAIRMAN A ถือเป็นรถในสนามกอล์ฟที่สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกและเรียบง่าย เรียกว่ามีประโยชน์กับคนใช้เป็นอย่างมาก เพราะมันมีระบบปลอดภัยที่ครบครัน ทั้งยังมีระบบเบรคไฟฟ้า (EMB) และมีกล่องควบคุมอัจฉริยะชะลอความเร็ว เมื่อมีการผ่อนคันเร่ง ในขณะลงเนิน

นอกจากนั้นยังมี Park Break ป้องกันรถไหลขณะจอดและยังมี Smart Control สามารถปรับแต่งสมรรถนะให้เหมาะสมกับผู้ใช้งานด้วย ทำให้เป็นรถที่ใช้ได้ง่าย พอๆกับรถกอล์ฟไฟฟ้า 4 ที่นั่งเลย ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถไต่ทางชันได้สูงถึง 30 % และมีวงเลี้ยวแคบเพียง 3.9 เมตรเท่านั้น

รถกอล์ฟไฟฟ้า 6 ที่นั่ง รุ่น CHAIRMAN M PLUS ถือเป็นรถกอล์ฟไฟฟ้า 4 ล้อที่ใช้งานได้อย่างปลอดภัย เพราะมี Smart Control สามารถปรับแต่งสมรรถนะให้เหมาะสมกับผู้ใช้งานและยังมี Park Break ป้องกันรถไหลขณะจอด นอกจากนั้นยังมีมีระบบเบรกไฟฟ้า (EMB) อีกด้วย

รถกอล์ฟไฟฟ้า 6 ที่นั่ง รุ่น CHAIRMAN PLUS A จัดเป็นรถกอล์ฟที่มีจำนวนที่นั่งมากกว่ารถกอล์ฟไฟฟ้า 4 ที่นั่ง แต่วงเลี้ยวแคบเพียง 3.9 เมตรเท่านั้น และยังความเร็วสูงสุด 23 – 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมงอีกด้วย นอกจากนั้นยังไต่ทางชันได้สูงถึง 30% เลยทีเดียว เรียกว่าขับง่ายเหมือน 4 ที่นั่งก็ว่าได้

รถกอล์ฟไฟฟ้า 8 ที่นั่ง รุ่น AMBASSADOR A ถือเป็นรถกอล์ฟที่ควรอยู่ในลิสต์ของรถกอล์ฟไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดีเลย เพราะมันมีกล่องควบคุมอัจฉริยะชะลอความเร็ว เมื่อมีการผ่อนคันเร่ง ในขณะลงเนิน และมีระบบเบรกไฟฟ้า (EMB) และยังมีมี Park Break ป้องกันรถไหลขณะจอดอีกด้วย

รถกอล์ฟไฟฟ้า 8 ที่นั่ง รุ่น AMBASSADOR PLUS A ถือเป็นรถในสนามกอล์ฟขนาดที่นั่งจำนวนมาก แต่กลับมีวงเลี้ยวแคบเพียง 5.1 เมตรเท่านั้น นอกจากนั้นยังชาร์ตไฟครั้งละ 6 – 8 ชั่วโมง ค่าไฟเฉลี่ยเพียงครั้งละ 8 บาทเท่านั้น และชาร์ตไฟเต็ม 1 ครั้ง วิ่งได้ประมาณ 50 – 70 กิโลเมตรอีกด้วย

แม้จะเป็นรถยาว แต่ยังสามารถไต่ทางชันได้สูงถึง 20% เลย เรียกว่าควรอยู่ในลิสต์ของรถกอล์ฟไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดีเลย และยังมีความเร็วสูงสุด 23 – 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมงด้วย นอกจากนั้นยังมีมีกล่องควบคุมอัจฉริยะชะลอความเร็ว เมื่อมีการผ่อนคันเร่ง ในขณะลงเนิน จึงมีความปลอดภัยนั้นเอง